ด้าน น.ส.พลอย ผู้เสียหายเปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ขณะนั้นตนกำลังอยู่ในร้าน มีลูกค้าชาวต่างชาติ 2 คน กำลังอยู่ในร้าน ส่วนผู้ก่อเหตุเปิดประตูเดินทางเข้ามาในร้าน โดยไม่ได้ถอดรองเท้า และถือแก้วน้ำเข้ามาด้วย ตนเองก็ได้พูดกับผู้ก่อเหตุว่ากรุณาถอดรองเท้าด้วย ซึ่งเป็นนโยบายของทางร้าน เพื่อต้องการที่จะดูแลความสะอาดภายในร้าน เนื่องจากร้านตนเป็นร้านขายสินค้าสมุนไพรออร์แกนิก จำเป็นต้องดูแลรักษาความสะอาด แต่ผู้ก่อเหตุไม่พอใจด่าทอต่อว่าตนด้วยคำที่หยาบคาย แล้วใช้เท้าถีบเข้ามาที่ง่ามขาของตน และต้นขา ร่วม 2 ครั้ง

ตนรู้สึกตกใจได้แต่กุมท้องตัวเองไว้ เพราะตนเองตั้งท้อง 8 เดือน ขณะเกิดเหตุแม่ของตนก็ได้ผลักผู้ก่อเหตุให้ออกไปจากร้านแล้วปิดประตูร้าน หลังผู้ก่อเหตุออกไปจากร้าน ตนก็ได้ออกไปจากร้าน เพื่อตามไปถ่ายรูป เพื่อจะได้ติดตามมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับภาพวงจรปิดที่อยู่ใกล้ร้านของผู้เสียหายที่บันทึกภาพผู้ก่อเหตุเดินเข้าไปในร้าน ก่อนจะเกิดเหตุภายในร้าน จากนั้นไม่นานผู้ก่อเหตุได้วิ่งออกมาจากร้านแล้วมีรถจักรยานยนต์มารับไป

น.ส.พลอย เปิดเผยว่า แม้ว่าทางด้านผู้ก่อเหตุจะกล่าวขอโทษในสิ่งที่ได้ทำกับตนลงไป ในส่วนที่เขายอมรับผิดมาขอโทษ ตนพร้อมรับคำขอโทษ และในส่วนของการดำเนินคดีตามกฎหมาย ตนก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมายตามกระบวนการของกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ขึ้นกับใครอีก ตนเองไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงใช้เท้าถีบคนที่ตั้งท้อง 8 เดือนได้ลงคอแบบนี้

ด้าน พ.ต.ต.เกียรติขจร อำลอย สว.สอบสวน เจ้าของคดีเชิญ น.ส.พลอย ผู้เสียหายมาให้ข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมจะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ในข้อหา ทำร้ายร่างกาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.