Loading...

การเก็บไวน์ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร?

เก็บไวน์ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร?

ความเชื่อทั่วไปในการเก็บรักษาไวน์

>> “การเก็บไวน์ในอุณหภูมิห้องนั้นก็เพียงพอแล้วจริงหรือ?”

คำกล่าวนี้อาจจะเป็นจริงสำหรับประเทศต้นกำเนิดของไวน์โซนยุโรปที่มีอุณภูมิเย็น ประมาณ 12-19 องศาเซลเซียสซึ่งอยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับการเก็บรักษาไวน์อยู่แล้ว เมื่อเทียบกับประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้มีภูมิอากาศที่ร้อนกว่า ที่ 28-35 องศาเซลเซียส การเก็บไวน์อุณหภูมิห้องนั่นจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย

>> “การเก็บไวน์ ต้องวางขวดในแนวนอน?”

เนื่องจากไวน์บางขวดนั้น ใช้จุกคอร์ก (Cork) ในการปิด เมื่อปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน จุกคอร์กจะแห้งและหดตัวลง สิ่งที่ตามมาก็คือ อากาศจากภายนอกจะเข้าไปสัมผัสกับไวน์ในขวด ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพ หรือกลายเป็นไวน์เสีย การจัดวางขวดไวน์เป็นแนวนอนนั้น ช่วยให้น้ำไวน์ได้สัมผัสกับจุกคอร์ก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและคงสภาพเดิมอยู่เสมอ แต่ในกรณีของไวน์ที่ใช้ฝาเกลียว ที่สามารถปิดผนึกขวดได้แน่นหนาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องวางในลักษณะนี้

>>“ไวน์เก่าเก็บ ยิ่งนานยิ่งรสชาติดี?”

ขอยืนยันว่าไม่จริงเสมอไป กว่า 90% ของไวน์ที่ผลิตออกมา มีอายุการดื่มที่ดีที่สุดเพียง 1-2 ปี จากวันผลิตเท่านั้น เพราะ Acetobacter ที่เป็นจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในไวน์ จะผลิตกรด Citric Acid เปลี่ยนจากไวน์ชั้นดีเป็นน้ำส้มสายชูแทนธรรมดา ๆ เมื่อหมดสภาพความเป็นไวน์ไปแล้ว มูลค่าก็จะลดลงตามด้วย

เหล่านี้คือความเชื่อ และคำบอกเล่าต่าง ๆ ในการเก็บรักษาไวน์ ที่มีทั้งจริงและไม่จริงปะปนกันไป

ทั้งนี้หลักที่ถูกต้องการเก็บรักษาไวน์ มีปัจจัยหลักๆที่คุณต้องคำนึงถึง คือ “อุณหภูมิ, ความชื้น, แสง, กลิ่น, การสั่นสะเทือน และรูปแบบการจัดเก็บ” ทั้งหมดเป็นปัจจัยสำคัญของการคงสภาพไวน์ของคุณให้เหมาะสมแก่การดื่มที่สุด TEMPTECH ขอพาคุณไปดูแต่ละหัวข้อกันอย่างละเอียด

การเก็บรักษาไวน์ที่ถูกต้อง

1. อุณหภูมิการเก็บรักษาไวน์ คือ 15-20 องศาเซลเซียส (Temperature)

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของไวน์มากที่สุด เพราะอุณหภูมิที่เหมาะสมย่อมทำให้ไวน์แสดงรสชาติได้ดี โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับไวน์แดงนั้นอยู่ที่ 12-18 องศาเซลเซียส เพื่อไม่ให้มีรสชาติฝาดแหลมและสัมผัสของแอลกอฮอล์ที่แรงจนเกินไป ส่วนไวน์ขาวหรือกลุ่ม Sparkling Wine นั้นควรอยู่ในระหว่าง 6-12 องศาเซลเซียสเพื่อให้มีรสสัมผัสที่สดชื่นขึ้น และควรมีความเย็นที่สม่ำเสมอ การเก็บไวน์ในตู้เย็นจึงไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้องเลย

ตู้แช่ไวน์ Temptech ที่ให้ความเย็นในระดับที่เหมาะสมกับไวน์แต่ละประเภท พร้อมแบ่งช่องในการเก็บไวน์ต่างชนิดได้ในตู้เดียวกัน ทำให้มั่นใจได้ว่าไวน์ขวดโปรด ไม่ว่าจะเป็น ไวน์แดง ไวน์ขาว หรือ Sparkling wine จะถูกเก็บในระดับความเย็นที่เหมาะสมที่สุดเสมอ

 

2. ความชื้นอยู่ที่ระดับ 50-70%

ความชื้นก็มีผลต่อการเก็บรักษาไวน์เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไวน์ที่ใช้ จุกคอร์ก (Cork) ในการผนึกปากขวด เพราะถ้าความชื้นในอากาศมีน้อยกว่า 50% จะส่งผลให้จุกคอร์ก (Cork) นั้นแห้งกรอบและหดตัวลง มีโอกาสที่อากาศจากภายนอกเข้าไปสัมผัสกับไวน์จนเกิดการ Oxidation ทำให้ไวน์นั้นมีรสชาติที่เปลี่ยนไป หรือเศษจุกคอร์กนั้นร่วงลงไป ส่งผลให้ไวน์เสียเร็วขึ้น และถ้ามีความชื้นมากกว่า 70% ทำให้ฉลากของไวน์ที่เก็บไว้เปื่อยยุ่ย จนเกิดความเสียหายได้

ตู้เก็บไวน์ Temptech จึงมาพร้อมกับคุณสมบัติการควบคุมความชื้นแบบอัจฉริยะ ที่จะคงระดับไว้ช่วง 50-70% เพื่อคงคุณภาพของไวน์ในขวด และ ไปจนถึงความสวยงามของฉลากที่คุณต้องการสะสมให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดไว้

 

3. อย่าให้โดนแสง

เป็นจุดที่ควรระวังอีกข้อ เพราะการที่น้ำไวน์ได้สัมผัสกับแสง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสง UV จากแสงแดด ที่ทำให้เกิดความร้อนจนไปเร่งกระบวนการหมักบ่มของไวน์นั้นทำงานเร็วขึ้น รสชาติของไวน์จะแปลกไปจากที่ควรจะเป็น นั่นเป็นสาเหตุที่ Winery มักจะสร้าง Wine Cellar ไว้ใต้ดิน หรือตามร้านอาหารมักจะเก็บไวน์ไว้ในห้องทึบแสง รวมถึงการทำขวดไวน์แดงเป็นสีเขียว เพื่อป้องกันแสงจากภายนอกนั่นเอง

ตู้แช่ไวน์ Temptech ก็เช่นกัน เพราะสำหรับรุ่นที่โชว์ฉลากนี้ ได้ติดตั้งกระจกนิรภัย Triple Layer Glass เพื่อความแข็งแรง และเคลือบชั้นกระจกป้องกันรังสี UV จากภายนอก มาพร้อมกับไฟ LED ที่ให้แสงสว่างที่มากกว่า แต่ปล่อยความร้อนและแสง UV น้อยกว่าหลอดไฟส่องสว่างทั่วไป อย่างเช่น Temptech รุ่น Copangagen CD180SB เป็นต้น

4. ป้องกันกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

นอกจากสีสันและรสชาติแล้ว กลิ่นนั้นก็เป็นเสน่ห์อีกข้อของไวน์เช่นกัน แต่ถ้าเวลาเปิดตู้แช่ไวน์ออกมาแล้วได้กลิ่นอับข้างในโชยออกมา ย่อมทำให้สุนทรียภาพในการดื่มสะดุดลงทันที และสำหรับไวน์ที่เคยเปิดมาครั้งหนึ่งแล้วเก็บรักษาไม่ดี จะไม่สามารถแก้ไขให้กลิ่นดั้งเดิมของไวน์ขวดนั้นกลับมาได้อีกเลย

เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น Temptech จึงได้ติดตั้ง Charcoal Filter ในระบบหมุนเวียนอากาศของตู้แช่ไวน์ เพื่อขจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกไป พร้อมทั้ง Rack ไม้สำหรับวางขวดไวน์ ที่ใช้ไม้ธรรมชาติคุณภาพดี ไม่ผ่านการเคลือบย้อมและสารเคมีใด ๆ ให้เกิดกลิ่นรบกวนภายในตู้

5. เกิดการสั่นสะเทือนน้อยที่สุด

เชื่อหรือไม่? ตู้เย็นแช่ไวน์ราคาถูกทั่วไปนั้น ถึงแม้จะสามารถทำความเย็นได้ดี แต่อาจจะมีเสียงที่ดังและเกิดการสั่นสะเทือน โดยเฉพาะการหมุนมอเตอร์ในระบบทำความเย็น มีการพิสูจน์มาแล้วว่า การสั่นสะเทือนนั้นทำให้เกิดอุณหภูมิสูงขึ้นจากเดิม เมื่อไวน์ได้รับความร้อนเพิ่ม ก็จะไปเร่งกระบวนการหมักบ่มให้ทำงาน ส่งผลให้ไวน์สุกจนเกินไป รสชาติจากเดิมที่พอดีจึงผิดไปจากที่ควรจะเป็น และจนถึงบูดเสียเร็วขึ้นจนไวน์ขวดนั้นหมดมูลค่าไปทันที ทั้งนี้ นี่เป็นปัจจัยที่คนรักไวน์ส่วนมากนึกไม่ถึง

แต่สำหรับตู้เก็บไวน์ Temptech ไม่ยอมปล่อยให้จุดเล็ก ๆ นี้มาทำลายคุณภาพของไวน์ได้ จึงเลือกใช้ระบบทำความเย็นที่มีความเงียบและนิ่ง เพื่อคงรสชาติที่พอดีและเก็บรักษาไว้ได้ยาวนาน

6. มีรูปแบบการวางขวดเป็นแนวนอน

เหตุผลหลักของการวางไวน์ในแนวนอนนั้นคือ การช่วยให้น้ำไวน์ได้สัมผัสกับจุกคอร์ก ทำให้ยังคงสภาพที่สมบูรณ์ ปกป้องไวน์จากอากาศภายนอกที่จะเข้ามาทำให้ไวน์เสื่อมคุณภาพลง เมื่อเทียบกับการวางแนวตั้ง เมื่อไม่ได้สัมผัสความชุ่มชื้นจากน้ำไวน์ จุกคอร์กจึงเกิดการแห้งกรอบ และเศษจุกคอร์กสามาร่วงลงไปในไวน์ ทำให้ไวน์เสียเร็วขึ้น หรือจุกหักในคอขวดขณะเปิด

ถึงแม้ว่าการผนึกขวดด้วยฝาเกลียวจะช่วยรักษาคุณภาพของไวน์ได้เหมือนกัน แต่หลาย ๆ แบรนด์ ยังคงใช้จุกคอร์ก (Cork) อยู่ ด้วยธรรมเนียมการผลิตที่สืบทอดมาของแบรนด์นั้น ๆ เป็นวัสดุธรรมชาติ และช่วยให้เก็บไวน์ไว้ได้นาน ด้วยความที่จุกคอร์กนั้นเป็นไม้ จึงยังต้องพึ่งพาความชื้นในการคงสภาพอยู่

 

Share This Story, Choose Your Platform!